ความเป็นมา หลักการและเหตุผล
การศึกษาถือว่าเป็นส่วนที่สำคัญยิ่งในกระบวนการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ถ้าการศึกษาดีมีคุณภาพย่อมทำให้กระบวนการในการพัฒนาเป็นไปอย่างรวดเร็วมีประสิทธิภาพ คณะทำงานได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของคุณภาพการศึกษาในสายคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และภาษาอังกฤษ ของเด็กไทยโดยเฉพาะในระดับประถมศึกษา ซึ่งจะเติบโตเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศชาติอย่างยั่งยืน แต่ด้วยคุณภาพของการศึกษาไทยเป็นปัญหาที่มีมานาน ทั้งในเรื่องงบประมาณ ประสิทธิภาพของบุคลากร สภาพแวดล้อม อุปกรณ์การเรียนการสอน และกระบวนการจัดการเรียนให้สอดคล้องกับบริบทของผู้เรียน โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาของการเข้าถึงแหล่งการเรียนรู้ คุณภาพการศึกษา ความเท่าเทียมของการศึกษาของเด็กไทย ความแตกต่างของการศึกษาในสังคมเมืองและสังคมชนบท ซึ่งมีความแตกต่างกันอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของบุคลากร สิ่งอำนวยความสะดวก งบประมาณ แหล่งการเรียนรู้ และอื่น ๆ
จากข้อมูลรายงานประจำปี 2558 ของสำนักงานคณะกรรมการขั้นพื้นฐานกระทรวงศึกษาธิการ ประเทศไทยมีโรงเรียนใน ระดับอนุบาล – มัธยมศึกษาตอนต้นจำนวน 28,265 โรงเรียน มีจำนวนนักเรียนในระดับก่อนประถมศึกษา 980,328 คน ระดับประถมศึกษา 3,244,395 คน และระดับมัธยมศึกษาตอนต้น 1,767,833 คน โดยมีจำนวนข้าราชการครู จำนวน 399,799 คน ทั้งนี้จากรายงานข่าวสำนักงานรัฐมนตรี 88/2560 ได้มีการการประชุมขับเคลื่อนการยกระดับคุณภาพโรงเรียน ICU (โรงเรียนที่อยู่ในสภาพที่แย่ เช่น ครูไม่พอ ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนต่ำ เด็กออกกลางคันจำนวนมาก มีปัญหาด้าน IT รวมถึงอยู่ในพื้นที่ห่างไกล เป็นต้น) โดยคัดเลือกจำนวนโรงเรียนที่สมัครเข้าร่วมโครงการโรงเรียน ICU แล้วจำนวนทั้งสิ้น 6,964 แห่ง แบ่งเป็นโรงเรียนสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา 4,469 แห่ง, สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา 364 แห่ง และโรงเรียนกลุ่ม ICU ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วมภาคใต้ 2,131 แห่ง
มูลนิธิฯได้มีแนวคิดเพื่อเสริมการดำเนินงานในด้านนี้ โดยดำเนินการในอีกรูปแบบหนึ่งที่มีความคาดหวังในการขยายผลในวงกว้าง จึงได้ริเริ่มโครงการ
“โครงการครูถุงนอน สอนหนังสือ”ครูผู้จุดประกายศักยภาพตนเองและผู้อื่นไปพร้อมกัน
“Sleeping Bag Teacher”
“Lightening up our potentials with the kids better opportunity”
เพื่อหวังจะเป็นโครงการที่จะช่วยส่งเสริมให้เด็กไทยในชุมชนห่างไกลหรือโรงเรียนในกลุ่ม ICU ได้มีการพัฒนาในเรื่องคุณภาพการศึกษา โดยในช่วงแรก จะดำเนินการโดยจัดกิจกรรมค่ายการเรียนรู้ในช่วงปิดภาคการศึกษาโดยนิสิต นักศึกษาและบุคคลทั่วไป ที่อาสาเข้าร่วมโครงการ เพื่อลดช่องว่างในเรื่องความแตกต่างของการเข้าถึงการศึกษาของเด็กไทย และสร้างแรงจูงใจให้เด็กไทยมีความกระตือรือร้นในเรื่องการพัฒนาตนเองให้ทัดเทียมกับสังคมโลก นอกจากนี้ทางคณะทำงานยังมีเป้าหมายในรวมพลังกลุ่มอาสาสมัครจากมหาวิทยาลัยต่าง ๆ เพื่อเข้าร่วมโครงการ ซึ่งจะทำให้ได้ครูอาสาที่มีคุณภาพจำนวนมากได้ และสามารถขยายผล เป็นโครงการต้นแบบเพื่อกระตุ้นให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชน ได้ตระหนักถึงความสำคัญของการศึกษาของเด็กไทยในชุมชนห่างไกล เพื่อสร้างกลไกที่มีความยั่งยืนในการดำเนินการในระยะยาวต่อไป
วิสัยทัศน์ของคณะทำงาน
จัดตั้งขึ้นโดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อพัฒนาการศึกษาของเด็กไทยโดยเฉพาะระดับประถมศึกษาและพัฒนาศักยภาพมนุษย์อย่างสร้างสรรค์
วัตถุประสงค์ของโครงการ
1. พัฒนา ยกระดับคุณภาพของการศึกษาของเด็กไทยระดับประถมที่ด้อยโอกาส ลดช่องว่างในเรื่องความเท่าเทียมในการเข้าถึงแหล่งการเรียนรู้และส่งเสริมให้มีกระบวนการการเรียนการสอนที่ทันสมัยในรูปแบบของค่ายการเรียนรู้นอกหลักสูตรเน้นการสอนโดยใช้หลัก L+1 ในขณะที่ L หมายถึงระดับความรู้ที่แท้จริงของนักเรียน และทำการสอนโดยเพิ่มระดับความรู้เพิ่มขึ้น 1 ระดับ ของแต่ละระดับชั้นประถม ตามศักยภาพการเรียนรู้และความถนัดของเด็ก พัฒนาทักษะการเรียนรู้ตามศตวรรษที่ 21 ทั้ง กาย ใจ และปัญญา เน้นการเรียนรู้ผ่านกิจกรรมหรือนอกห้องเรียน เรียนรู้การประยุกต์ใช้ทฤษฎีในชีวิตประจำวัน
2. เปิดโอกาส และพัฒนาศักยภาพให้นิสิต นักศึกษา และบุคคลทั่วไป ได้มีส่วนร่วมในการแก้ไขและพัฒนาด้าน การศึกษาผ่านประสบการณ์จริงร่วมกับครูและชุมชนในพื้นที่ ทำให้เข้าใจและเกิดความตระหนักถึงปัญหาความไม่ เท่าเทียมทางด้านการศึกษาและอยากมีส่วนร่วมในการแก้ไขอย่างแท้จริง เกิดความรักในถิ่นฐานในหมู่เด็กนักเรียน นักศึกษา นิสิตและอาสาสมัคร ที่เข้าร่วมโครงการเมื่อเติบโตขึ้นมีความรู้สามารถนำความรู้มาพัฒนาชุมชนตนเองได้
3. สร้างพลังการเปลี่ยนแปลงการศึกษาจากระดับล่างเพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางระบบอย่างยั่งยืน เชื่อมต่อกันผ่าน การทำงานร่วมกันทุกฝ่าย สร้างสังคมแห่งการช่วยเหลือแบ่งปันเรียนรู้และพัฒนาตนเองจากประสบการณ์จริง
จุดเด่นของโครงการ
1. เป็นโครงการที่เน้นการมีส่วนร่วมของทุกฝ่ายในการร่วมกันออกแบบกิจกรรมการสอนทำให้เกิดความรู้สึกทุกคนเป็นเจ้าของบทเรียนร่วมกันและเปิดโอกาสให้กับแนวคิดทางการศึกษารูปแบบใหม่ ๆ เปิดโอกาสให้อาสาสมัครได้แสดงศักยภาพเต็มที่ ช่วยสร้างกลไกการปรับแผนงานพัฒนาการศึกษา
2. การออกแบบหลักสูตรจะมีความเหมาะสมสำหรับนักเรียนในแต่ละกลุ่มพื้นที่ และเน้นให้มีความหลากหลายของกิจกรรม เพื่อให้สามารถระบุได้โดยคร่าวถึงความชอบของเด็กนักเรียน ช่วยในการแนะแนวอาชีพและลักษณะการเรียนต่อ ทักษะชีวิตและสังคมให้เหมาะกับแต่ละคน
3. สามารถสร้างศักยภาพในการรับอาสาสมัครจำนวนมาก และให้เกิดผลกระทบในวงกว้างได้
4. เน้นให้มีส่วนร่วมจากครูของโรงเรียน เพื่อยกระดับครูในโรงเรียนพร้อม ๆ ไปกับศักยภาพของนักเรียน
วิชาที่เปิดสอน
เราสนับสนุนให้ครูถุงนอนได้มีส่วนร่วมในการออกแบบกิจกรรมการสอนและวัดผลการทำงานด้วยตนเอง สร้างสรรค์รูปแบบการสอนที่เป็น Active Learning ที่สนับสนุนพื้นฐานความรู้ของเด็กๆ พัฒนาและดึงศักยภาพด้านต่างๆของเด็กๆและตนเองให้เกิดคุณค่า เราเชื่อว่าการเรียนรู้ที่ดีต้องมาจาก ใจ กายและปัญญา ตามแนวทางการศึกษาทางเลือวอล์ดอร์ฟ โดยเน้นการสร้างทัศนคติที่ดีต่อการเรียนรู้สิ่งใหม่ ปัจจุบันหลักสูตรมูลนิธิ คือ
- English communication and Life Motivation ระยะเวลา 8 วัน
- English & Art Camp on tour” ระยะเวลา 3 วัน





















ใส่ความเห็น